สอบสัมภาษณ์ สอบเข้าทำงาน สมัครงาน ให้ได้งานทำ อย่างแน่นอน

5 เทคนิคการสอบสัมภาษณ์ สอบเข้าทำงาน สมัครงาน ให้ได้งานทำ อย่างแน่นอน 

สำหรับนักศึกษาจบใหม่  มนุษย์เงินเดือนที่ต้องการเปลี่ยนงาน เพื่อชีวิตและอนาคตในอาชีพที่ดีขึ้น

1) ต้องรู้เกี่ยวกับ บริษัท องค์กร  ที่เราไปสมัคร  อย่างน้อย ก็เป็นภาพรวม  อาจไม่ถึงขั้นลงลึกเช่น สมัครบริษัทเหมืองแร่  ก็ไปค้นมาว่า  ทำเหมืองแร่ถ่านหินที่อินโดนีเซีย    รายได้หลัก  คือ อะไร   ผลประกอบการเป็นอย่างไร

ใครเป็นผู้บริหาร  ถ้าบริษัทมีเวปไซต์ ให้เข้าดู  ที่หัวข้อ  ABOUT US   เกี่ยวกับเรา  ถ้าเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดูที่ข้อมูล  56-1

2)  ต้องรู้ตำแหน่งที่สมัคร Job description ต้องทำอะไรบ้าง  ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง  ขึ้นตรงต่อใคร  มีลูกน้องกี่คน

ทีมงานมีใครบ้าง  การประเมินผลความสำเร็จของงาน ขึ้นกับอะไร  วัดจากอะไร

ต้องรู้ว่านายจ้างต้องการ  คนแบบไหน   เช่น  ถ้าเป็นพนักงานฝ่ายบัญชี  ต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านบัญชี ในระดับไหน  ต้องมี  CPA   ต้องมีประสบการณ์  10 ปี ชึ้นไป  ตำแหน่งระดับ ผู้จัดการ

3.) การตอบคำถาม ต้องรวดเร็ว อย่าอึ้ง อย่าคิดมาก  ต้องกระฉับกระเฉง

ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้าง

จุดแข็ง จุดอ่อน  ของเรา  คิดไว้เลย   จะพัฒนาจุดแข็งอย่างไร จะกำจัดจุดอ่อนอย่างไร   ถ้าเขาถามอะไร เราจะตอบอย่างไร

ภาษาอังกฤษ ต้องคล่อง พูดจา  สนทนา ตอบโต้ ได้ โดยเฉพาะเรื่องงาน    คอมพิวเตอร์ ต้องได้

4.)การแต่งกาย บุคลิกภาพ ต้องคำนึงถึง เป็นเบื้องต้นเลย เสื้อผ้า ต้องสะอาด เรียบร้อย แต่งกายให้เข้ากับกาละเทศะ               ผู้ชาย ถ้าให้ง่ายก็ต้อสวมเสื้อเชิ้ต ผูกเนคไท ก็ดูดี  ไม่พับแขนเสื้อ (ขอเน้น)

ผู้หญิง สวมกระโปรง ก็ดูดี ไม่สั้นจนหวิว  หรือ สวมกางเกงทรงทำงาน  สุภาพ ไม่รัดรูปเกินไป จนบางคนก้นแทบปริ เสื้อสูทก็ดูเป็นทางการ  สีสุภาพ เทา/ดำ  เสื้อไม่บาง หรือ คอต่ำ จนนมหก

สรุป แต่งกายแบบให้เกียรติ องค์กร  ผู้สัมภาษณ์   รวมถึงกลิ่นปาก กลิ่นตัว ต้องระวัง

5.) คาดการณ์/จำลองสถานการณ์ไว้ก่อนเลย  ว่าถ้าเขาถามคำถามนี้มา เราจะตอบอย่างไร  เช่น  ถาม : ทำไมจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า   เราจะตอบอย่างไรให้เป็นบวก คิดไว้ก่อนเลย  ปิดประเด็นที่ว่า เรามีปัญหากับที่ทำงานเก่า ทำงานไม่ได้ ถ้าสมัครงานตำแหน่งนี้ เขาต้องถามแน่นอน  เช่น  ตำแหน่งพนักงานบัญชี  ต้องถามว่าปิดงบได้ไหม เคยทำบัญชีอะไรมาบ้าง  คือ ถามเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในตำแหน่งนั้น วิชาชีพนั้น

จินตนาการว่า ถ้าเราเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์  เราจะต้องการรู้อะไร  ต้องการค้นหาอะไรในตัวาผู้สมัคร  ที่จะตัดสินใจได้ว่าเขาจะรับเข้ามาทำงาน  และทำงานในตำแหน่งนี้ได้  (เป็นอย่างดีด้วย)   ภายในเวลาไม่กี่สิบนาที เขาจะถามอะไร และ เขาต้องการคำตอบแบบไหน  ในทางกลับกัน คุณจะตอบคำถามแบบไหน  จึงจะโดนใจกรรมการ แต่คุณก็ต้องทำได้อย่างที่พูดนะ ไม่ใช่โม้ไปวันวัน  เขารับเข้าไป ก็ทำงานไม่ได้

อีกอย่างหนึ่งที่นิยมถามกันมากในพนักงานที่มีประสบการณ์ทำงาน  คือ เรื่องเป้าหมายของงาน   ถ้าคุณเข้ามาทำตำหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย  มีเป้าหมายยอดขายเดือนละ 500 ล้าน คุณมีทางทำได้อย่างไร  ครับ ผมทำได้  พอมาทำได้ 3 เดือน  ประเ มินไม่ผ่านโปร  ก็ บ๊าย บาย   มันไม่ใช่แค่สอบให้ผ่าน  มันต้องทำงานให้เขาได้ และ ทำได้ดีด้วย  ถึงจะแน่

สรุปว่า รู้เขา รู้เรา  รบร้อยครั้ง  ชนะร้อยครั้ง    แต่บางครั้ง  ถึงตอบได้ ทุกคำถาม   ก็ไม่ผ่าน เพราะ เคมี มันไม่ตรงกัน 

ทำไงได้  ก็ต้องพยายามอ่านลีลา ท่าทางของกรรมการให้ออก ว่าเขาจะมาแนวไหน มุกไหน

มีเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเรื่องการสมัครงาน และ การทำงาน  ขอเล่าเป็นกรณีศึกษากับเด็กรุ่นใหม่ที่จบมาหางานทำ  คือ  เมื่อไม่นานมานี้  ได้สัมภาษณ์และรับเด็กเข้ามาทำงาน  3  คน   คนแรกจบมหาวิทยาลัยดัง  เป็นผู้หญิง   ทำงานได้ โอ เค  ความละเอียด ความถูกต้องของงาน   ความเป็นผู้นำ  กล้าพูด  แต่  อีก 2 คน  เป็นเด็กผู้ชาย    ตรงกันข้ามเลย    ผู้ชายคนแรก  ช่วงโปร ก็สามวันทำงาน สี่วันป่วย ห้าวันลา  งานก็ทำกระท่อนกระแท่น ผิดมั่ง ถูกมั่ง    ส่วนผู้ชายคนที่สอง  ตอนแรกทำทีว่าจะดี ทำไปทำมา  สั่งให้ทำงานบริษัท ก.  แกส่งงานมาก็แปลกใจ ทำงานเร็วจังวะ  พอมาเช็คภายหลัง  มั่วสุดๆ  งานบริษัท  ก.  ดันไปเอาข้อมูลบริษัท ข. มาใส่ เป็นต้น    แบบนี้เข้าแก็งค์ไหน หัวหน้าตายหมด เพราะแกวางยาไว้เพียบ  ปวดหัวไปหมด มึนตึ้บ มา ตรูทำเองดีกว่า  วิเคราะห์ดูแล้ว เหมือนไม่มีสมาธิ   ดูแต่หุ้น เล่นแต่มือถือทั้งวัน  ม่ายรู้ว่าแกมีเป้าหมายหลักอยากจะทำงานออฟฟิศเป็นงานเสริม แล้วเล่นหุ้น เป็นงานหลัก หรือ เปล่า ภาษาอังกฤษของ ผู้ชายสองคนหลัง ไม่โอเค เท่าไร  ของผู้หญิง เขียนได้ มีหลักไวยากรณ์  จับใจความได้  พูดภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีทีเดียว   และ ผู้ชายสองคนหลังคนหนึ่งจบอินเตอร์ ม. ดัง ที่มีนักศึกษามากๆ  อีกคนจบ ป.ตรี ม. มีชื่อ ที่ตั้งอยู่ ตจว.  พูดถึงการ train  ผู้หญิงเราฝึกไว้ ไม่นานเขาไปต่อได้เอง ทำงานได้  แต่เด็กผู้ชายสองคน ไม่ผ่านโปร ทุกคนเกรดเฉลี่ย  3 กว่า  อันนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า คนเรียนดี ไม่จำเป็นต้องทำงานดีทุกคน และ ความรับผิดชอบ วุฒิภาวะ ของเด็กจบใหม่  ผู้หญิงจะดีกว่าผู้ชาย  ไม่แน่ใจ  แต่เท่าที่เราเจอผู้หญิงดีกว่า  คนจบม.ดังเก่าแก่ที่ไว้วางใจ  ทำงานดีกว่า  อันไม่ใช่ข้อสรุป แต่ใช้เป็นแนวทางคิดต่อยอดกับผู้เกี่ยวข้องได้ว่า เราจะพัฒนาเด็ก NEW GEN ของเราไปในทิศทางใด  ทำไมเด็กจบป.ตรี มาแล้ว ทำงานไม่ได้

หากท่านต้องการพัฒนาตนเองให้เป็นมนุษย์เงินขั้นเทพ หรือ อบรมพนักงานของท่านให้เป็นพนักงานขั้นเทพ โปรดอ่านบทความจาก blog  SMEs น่ารู้  เป็นประจำ