หลักการวิเคราะห์งบการเงิน สำหรับ SMEs


ลักการวิเคราะห์งบการเงิน สำหรับ SMEs 

ในยุคที่หลายคนบอกว่าเป็นยุค  Thailand 4.0 ,  digital economy ,  disruptive ,  fintech  

หลักการวิเคราะห์งบการเงินของแต่ละอุตสาหกรรม เทคนิค คือ ให้ไปหาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันกับบริษัทที่เราต้องการวิเคราะห์ ซึ่งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นั้น อัตราส่วนทางการเงินใช้เป็นฐาน หรือ benchmark ในการคำนวณได้ เนื่องจากบริษัทในตลาดฯ มีระบบบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบจาก ผู้สอบบัญชีระดับประเทศ และถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.ล.ต. รวมทั้งมีระบบการควบคุมภายในที่เชื่อถือได้ และมีบรรษัทภิบาลที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ ถ้าเทียบกับบริษัทนอกตลาดฯ โดยเฉพาะ SMEs เช่น  เรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี โดยการตกแต่งรายการทางบัญชี ซึ่งเป็นที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลายในธุรกิจ SMEs

                ยกตัวอย่างธุรกิจ garment/apparel ที่มีแบรนด์ของตัวเองเปรียบเทียบ 3 บริษัท

  • บริษัท A ใหญ่สุด ยอดขาย 8 พันล้านบาท  อัตรากำไรขั้นต้น 45%  อัตรากำไรสุทธิ  3%
  • บริษัท B ใหญ่เป็นอันดับ 2 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ยอดขายต่อปี 4,000 ล้านบาท

              อัตรากำไรขั้นต้น 40%  อัตรากำไรสุทธิ  20%

  • บริษัท C เล็กสุด ยอดขาย 2 พันล้านบาท  อัตรากำไรขั้นต้น 50%  อัตรากำไรสุทธิ  2%


***จะเห็นว่า Net Profit Margin ของบริษัทในตลาดฯ สูงกว่าอีก 2 บริษัทที่อยู่นอกตลาดฯ มาก คือ 20%  แม้ว่าจะมีศักยภาพที่ต่างกัน  ผู้บริหารต่างกัน ฯลฯ  แต่การที่เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่น มีแบรนด์ของตนเองเหมือนกัน ย่อมตั้งสมมุติฐานได้ว่าไม่น่าจะต่างกันมากนัก

                สรุป : ประมาณการได้ว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรม garment/apparel มี Net Profit Margin 20%  หรือ

+ -  นิดหน่อย

                ดังนั้นเราจึงใช้อัตราส่วนทางการเงินนี้ ไปเป็นฐานในการประมาณการผลประกอบการของบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน  เช่น บริษัท A  ยอดขาย  8  พันล้านบาท  ควรมีกำไรสุทธิ  1,600  ล้านบาท  หรือ บริษัท C ยอดขาย  2  พันล้านบาท  ควรมีกำไรสุทธิ  400  ล้านบาท  ก็จะทำให้เห็นภาพที่แท้จริงของผลประกอบการชัดเจนขึ้น ครับ รวมทั้งสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดได้.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Mismatching fund ปัญหาที่ SMEs ควรหลีกเลี่ยง

SME : EDUCATION ข้อสอบเข้า ป.1 สาธิตราม

ACCOUNT RECEIVABLE