ศูนย์รวมความรู้ SME , เศรษฐศาสตร์ และ การเงินธุรกิจ

1.สำรองไฟล์งานไว้ใน   THUMB DRIVE   หรือ   External drive ( ราคาพันกว่าบาท) หรือ ส่งทาง   GMAIL   แล้ว   attach file ไว้ก็ได้   เวลาจะทำงานก็โหลดลงเครื่องคอมฯ เพื่อทำงาน   หรือ เอาไปลงใน GOOGLE DRIVE   เป็นบริการฟรีแต่จุข้อมูลได้ไม่เกิน   15   GB 2. ถ่ายเอกสารงาน เฉพาะหน้าที่สำคัญ    เช่น   สรุปเงื่อนไขที่ได้ทำข้อตกลงไว้กับลูกค้า,    สัญญาซื้อ - ขาย,   สัญญาเงินกู้,    รายการลูกหนี้การค้า  ,  เจ้าหนี้การค้า,    กำหนดการชำระหนี้สิน 3.   แยกงานระหว่างทำ   work on hand  โดย จัดแบ่งกลุ่มเป็นงานที่ต้องทำเร่งด่วนที่สุด    ด่วนปาน กลาง   และด่วนน้อยที่สุด เตรียม   STAND BY   เอกสาร ใส่กล่อง   ยกกลับบ้าน    4.   ควรทำดัชนี   ข้อมูลที่เอาไปทำที่บ้าน   ทั้งข้อมูล soft copy และ hard copy     เพื่อป้องกันสับสน และ ข้อมูลหาย   ตกหล่น ข้อควรระวัง เอกสารตัวจริง   ไม่ควรนำออกไปจากออฟฟิศ   เพราะมีความเสี่ยงที่จะหาย และ ผิด POLICY ของแต่ละองค์กร 5. ทำ TIME LINE ไว้ด้วยว่าเอกสารนี้จะนำกลับบ้านไป เริ่มวันที่เท่าไร...   จะเสร็จสิ้น นำกลับมาเก็บวันที่เท่าไร.

เนื่องจากออฟฟิศปิด     ออกนอกบ้านไม่ได้   จะทำอะไรกันดี   ที่เป็นกิจกรรมภายในครอบครัว. *จัดติวพิเศษให้ลูก เป็นช่วง Learn at Home     ลูกอยู่กับบ้านปิดเทอม ไม่มีอะไรทำ   จะเล่นเกมส์อย่างเดียว ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์   ถ้าอย่างนั้น พ่อเป็นอาจารย์เอง    จัดตารางช่วงเช้า   9   โมง ถึง   10   โมง   วิชาวาดภาพระบายสี   ลูกอยากวาดภาพ   AVENGERS    ก็ให้วาด ระบายสีไปตามสบาย ช่วง   10 โมง   ถึง   11   โมง   วิชาคณิตศาสตร์    การคูณ และ โจทย์ประยุกต์ในชีวิตประจำวัน ก็ว่ากันไป   จัดเวลาเรียนตามอัธยาศัย   ทั้งพ่อ ทั้งลูก   เบื่อก็เบรค   ลูกพักกินขนม   พ่อพักกินกาแฟ *ชวนลูกเล่นเกมส์พวก    หมากฮอร์ส   หมากหนีบ   Othello    ไพ่อูโน่    เกมส์เศรษฐี    เป็นต้น *ปลูกพืชผักสวนครัวไว้หน้าบ้าน   เช่น     ผักชี     ผักบุ้ง   พริกขี้หนู   กะเพรา *ทำ DIY อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน จากวัสดุเหลือใช้ *ชงกาแฟ กินเองที่บ้าน   ถ้าไม่มีเครื่องแบบ home use ก็จะใช้แบบ drip   ก็ตามใจ ได้รสชาดดิบๆ ดีแท้ แถมประหยัดเงินด้วย ไม่ต้องออกจากบ้าน *ช่วงนี้มีเวลาว่าง เขียนบทความลง BLOG   ไว้   เผื่อจะเป็นประ

การจราจรโล่งขึ้น   ทางด่วน ไปได้รวดเร็วขึ้น    ผมมาทำงานในย่าน downtown ของกรุงเทพฯ ช่วงนี้ผมใช้เวลาขับรถกลับบ้านตอนเย็น เร็วขึ้นประมาณ   ครึ่งชั่วโมง    ตอนเช้าขับรถไปทำงานเร็วขึ้นเกือบ   1 ชั่วโมง ความคับคั่งของผู้คน ที่เดินจับจ่ายตามห้างสรรพสินค้า   หายไป    กลายเป็นเดินชอปปิ้งสบายๆ ไม่ต้องคอยเบียดเสียดใคร คุณจะหาสินค้าที่คุณต้องการได้ในราคาที่สมเหตุสมผล (ยกเว้นพวก healthcare ) สินค้ามีราคาถูกลง   ส่วนใหญ่ติดป้ายลดราคา 50 %   ขึ้นไป   หรือ   ซื้อ 1 แถม   1   เนื่องจากผู้ค้า ผู้ผลิตแย่งกันขายเพื่อเอา cashflow หรือ ต้นทุนเข้ามาก่อน   กำไร   ไม่กำไร ค่อยว่ากัน คุณผู้หญิงที่เคยเล็งแบรนด์ดังระดับโลกไว้  มาช้อปเลยครับ  เมื่อวานเข้าไปเดินเล่นห้างดังย่านชิดลม เจอเพียบ  ลด  50% เลยครับ แต่อย่าลืมออมเงินไว้เผื่อยามฉุกเฉินด้วยนะครับ.   ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง   เพราะอุปสงค์ลดลงทั่วโลก   แต่ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ก็ต้องไปว่ากันตามกลไกตลาดของไทย   อาจลดลงบ้าง   ยกตัวอย่าง   วันนี้ แก๊สโซฮอล์ 95      อยู่ที่ลิตรละ 21   บาท E85   แค่ลิตรละ   16   บาท เป็นโอกาสที่

How   to   manage   business in   Slowdown Economy                 ที่แน่นอนคือ ปริมาณธุรกิจ ธุรกรรมต่างๆ ต้องลดน้อยลง   แล้วเราจะบริหารอย่างไร   ถ้ารายได้ลดแต่ค่าใช้จ่ายไม่ได้ลดตาม   กระแสเงินสดก็จะติดลบไปเรื่อยๆ   จนกระเป๋าแห้ง   เกิดขาดสภาพคล่อง ในที่สุด ใช้หลัก   4   C Retrenchment   Strategy ใช้กลยุทธ์หดตัวทางธุรกิจ   เช่น      ลดสาขาลง จาก 5 สาขา   เหลือ   2    สาขา รายจ่ายค่าเช่าพื้นที่   ค่าใช้จ่ายโสหุ้ย   ค่าน้ำ ค่าไฟ    ค่าวัตถุดิบ   จะลดลง แต่พนักงานที่ลดลงด้วย   ระหว่างที่หยุดพักรบชั่วคราว จะเอาไปไว้ไหน แต่ต้องสามารถดึงทรัพยากรและบุคลากร กลับมาใช้งานได้ เมื่อตลาดเริ่มฟื้นกลับมา กลยุทธ์ทางการเงิน ต้องสอดคล้อง กับกลยุทธ์ธุรกิจ    โดยอาจต้องทำดังนี้   C ที่ 1 Cost control   ต้องควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่าย   แต่ที่จะยาก คือ   Fixed cost   ไม่ขาย   ไม่ผลิตก็ต้องจ่าย   เช่น   ค่าเช่าพื้นที่ ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร จะทำอย่างไร C ที่ 2 Cash flow    ควบคุมกระแสเงินสดให้เหมาะสมกับปริมาณธุรกิจ   พยายามเกลี่ยให้เงินสดเหลือในมือ เพื่อความปลอดภัย   เป็น saf

จากเหตุการณ์ภาวะวิกฤต โรคระบาด COVID – 19 ประกอบกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ในปี 2020 นี้ นักท่องเที่ยวลดลงไป 80-90 %   ไกด์ ไม่มีงานทำ 3 หมื่นคน   ยังไม่ต้องคำนวณผลกระทบต่อเนื่องจากห่วงโซ่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยงไปยังธุรกิจต่างๆ   เช่น โรงแรม   รีสอร์ท   ร้านอาหาร   ร้านนวด   สปา    GDP ของไทยเราต้องหายไปเพียบ ........ล่าสุดเดินไปกินข้าวเที่ยง เดินเข้าไปในห้างแถวออฟฟิศ พบว่าบูธขายนาฬิกานำเข้า รื้อออกไปแล้ว   จะเห็นว่าพวกสินค้าฟุ่มเฟือยไปก่อนเลย       ในช่วงนี้ เราควรจะทำธุรกิจอะไรดี จึงจะอยู่รอด   ปลอดภัย   โอกาสของธุรกิจในยุคนี้ ในวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่ หากเราแสวงหา และลงมือทำอย่างจริงจังและจริงใจ หลายๆ ธุรกิจก็ซบเซาไปหมด   นักท่องเที่ยวจีนก็ไม่มี   ขาดกำลังซื้อไปมหาศาล ผู้ค้าขายตามห้าง ต่างๆ   นั่งตบยุง   บางคนขายแทบไม่ได้เลย ในแต่ละวัน   ในขณะที่ค่าเช่าที่เดือนละเป็นหมื่น ผู้ประกอบการผับ ร้านเหล้า   ร้านอาหาร ก็บ่นไปตามกัน ว่าเงียบมาก   กลางคืนตามถนน ย่านเที่ยวเงียบเลย แล้วเราจะทำอะไรกันดี.... 1*สอนหนังสือ   จัดฝึกอบรม    เขียนตำรา อีบุ๊ค    ทางออนไลน์