ROAD TO SUCCESS FOR SME

SMEs : road  to  success

ข้อจำกัดที่ทำให้  SMEs  ไม่ประสบความสำเร็จขั้นเทพ  พูดง่ายๆ คือ ไปไม่ถึงดวงดาว    

ทำไม SMEs  คิดว่าที่ทำมา ก็ประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว แต่ความเป็นจริงเป็นเช่นนั้นหรือ

SMEs  ที่ผ่านยุคก่อร่างสร้างตัวมาแล้ว   จนกระทั่งมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง  เริ่มลืมตาอ้าปากได้ หากมองย้อนไปในอดีตก่อนที่จะฝ่าฟันอุปสรรค ไปถึงความสำเร็จ

                ยกตัวอย่างเช่น  ในช่วงก่อตั้งกิจการแรกๆ โรงงานยังเล็กอยู่  ก็จะใช้การเช่าโรงงาน  เพื่อไม่ต้องลงทุนมาก มักใช้ประสบการณ์ของเจ้าของกิจการ เช่น จบวิศวะ เครื่องกล และเคยทำงานในโรงงานญี่ปุ่น  ด้านแม่พิมพ์ยานยนต์  เป็นต้น  ดังนั้นในช่วงเริ่มกิจการ ก็จะลำบากหน่อย ไปซื้อวัตถุดิบจากใคร  ก็ต้องซื้อเงินสด  เขาเห็นเป็นโรงงานเล็ก เพิ่งตั้ง  ก็ไม่กล้าให้เครดิตเทอม  จะไปขอสินเชื่อ Bank  งบการเงิน  ก็ยังกะพร่อง กะแพร่งอยู่  เปิดมาไม่ถึง 3 ปี กำไรก็ยังติดลบอยู่ ทุนจดทะเบียนก็แค่  1  ล้านบาท  ก็ยากที่ผ่านการพิจารณาจาก  Bank   ส่วนใหญ่ต้องพึ่งแหล่งเงินทุนนอกระบบ หรือหยิบยืมจากนักธุรกิจในวงการเดียวกัน

                แต่เมื่อผลประกอบการดำเนินมาถึงปีที่ 10 กว่าแล้ว  ก็ถึงเวลาที่ต้องเก็บเกี่ยวผลพวงจากความสำเร็จ เนื่องจากการดำเนินการด้านต่างๆ นั้น ไว้ใจได้ในเรื่องการจัดหาวัตถุดิบ  การผลิตก็สามารถควบคุมต้นทุนได้  ไม่น่าห่วง  งบการเงินเริ่มแข็งแกร่ง  ภาระด้านเงินกู้ต่างๆ ก็เริ่มอยู่ตัว

                ผู้ประกอบการพอใจในความสำเร็จที่ผ่านมาจนไม่มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาหรือก้าวต่อไปในขั้นที่สูงกว่า ยกตัวอย่างเช่น  การผลิตไม่มีการพัฒนามาตรฐานเข้าสู่  ISO  หรือ มาตรฐานสำหรับการส่งออก  ทำให้เป็นข้อจำกัดที่จะค้าขายกับธุรกิจใหญ่ๆ  ที่ต้องผ่านมาตรฐานการ  Audit ที่เข้มงวด  เช่น พวกบรรรษัทข้ามชาติ

                ไม่พัฒนาเทคนิคการผลิต  การบริหารต้นทุน  ยังคงใช้เทคโนโลยี และเครื่องจักร เดิมๆ  ทำให้ไม่สามารถลดต้นทุนต่อหน่วยถึงจุดเหมาะสมตามหลัก การประหยัดจากขนาดการผลิต  (Economy of scale) จึงไม่สามาถ ขยายการผลิตรวมให้เติบโต

                รวมทั้งขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์  หรือสร้างนวัตกรรมที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ มีความแตกต่างจากคู่แข่ง  หรือ  สร้างประโยชน์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง  ทำให้สามารถตั้งราคา  premium  ได้

                การจัดระบบบัญชีการเงิน โดยการตกแต่งบัญชี ให้มีกำไรน้อย  ให้ขาดทุน เพื่อประหยัดภาษี หรือ บางบริษัท เพื่อตกแต่งให้สถานะการเงิน ออกมาดี ในการยื่นกู้ Bank  ทำให้ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งติดอยู่ในวงจรนี้  เมื่อได้ประโยชน์ก็เคยตัวและไม่เห็นความสำคัญของการจัดทำระบบบัญชีการเงินให้โปร่งใส  มีมาตรฐาน เป็นพื้นฐานที่นำไปสู่กิจการที่มีมาตรฐานทางการเงิน และระบบควบคุมภายในที่ดี  พร้อมจะเติบโตไปสู่ธุรกิจในอีกระดับหนึ่ง  เช่น  การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI

                ดังนั้น ฝากถึงผู้ประกอบการส่วนหนึ่ง  ที่ก้าวมาถึงความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหลุดทะลุไปสู่ระดับที่สูงกว่าได้  ควรหันมาทบทวนตนเอง   ไม่ติดยึดกับความสำเร็จในอดีต ติดยึดกับผลประโยชน์ และ ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง  เพื่อสานฝันให้เป็นจริงในที่สุด